คำถามที่นักการตลาด และ ผู้ประกอบการมักตั้งคำถามกันก็คือ เราจะขายของออนไลน์อย่างไร ให้คนเห็นเป็นต้องคลิก?
แน่นอนว่าก่อนที่สินค้าและบริการของแต่ละแบรนด์จะปล่อยออกมาในตลาดสู่สายตาคนบนโลกออนไลน์ จะต้องผ่านการผลิตที่ทีคุณภาพ การศึกษา
เพื่อหาค้นหากลุ่มเป้าหมายที่ใช้ ช่องทางโปรโมตสินค้า และปัจจัยต่าง ๆ โดยการขับเคลื่อนทางธุรกิจนั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปในทุก ๆ ปี เพราะฉะนั้น
STEPS Acedemy ขอนำเสนอปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการขับเคลื่อนธุรกิจออนไลน์ที่สำคัญ ว่ามีปัจจัยอะไรบ้าง ซึ่งในบทความนี้เราจะเน้นที่ 5 ปัจจัยหลัก
ที่มีผลต่อการวางกลุยทธ์การขาย หรือ Shopping Online เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งองค์กรขนาดใหญ่ รวมทั้งธุรกิจ Startup นำปัจจัยเหล่านี้ไปพิจารณา
เพื่อต่อยอดการวางแผนการตลาดดิจิทัลกันค่ะ
1. สร้างคอนเทนต์ที่เน้นผลลัพธ์ด้าน Conversion
การโปรโมตสินค้าไม่ว่าจะเป็นแบบออร์แกนิค หรือโฆษณา จุดประสงค์ที่สำคัญมาก ๆ นอกเหนือจากการสร้างการรับรู้แบรนด์ คือการที่ทีคนคลิกปุ่ม
Call to Action เพื่อให้เกิดผลลัพธ์บางอย่างเช่น
การซื้อสินค้าทั้งบนเว็บไซต์ และบนโซเชียลมีเดียแลพตฟอร์มโดยตรง
การสร้าง Engagement เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นบนโพสต์ การแชร์บทความ และการแท็กเพื่อเพื่อบอกต่อ
การคลิกเพื่อรับสิทธ์ต่าง ๆ จากการโปรโมตสินค้า การอ่านบทความ และดูรยาละเอียดเพิ่มเติม
การคลิกเพื่อดาวน์โหลดแอป
2. FOMO: โปรด่วน โปรดีที่ต้องรีบซื้อ
Fomo ย่อมาจาก Fear of Missing Out ซึ่งความหมายของ FOMO ในมุมของการตลาดนั้น คือ กลยุทธ์ที่นำเสนอลูกค้าที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยกระตุ้นให้
เกิดความรู้สึกกลัวว่า เราอาจจะพลาดบางสิ่งไป เพื่อเพิ่มโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกไม่อยากเสียโอกาว และลงมือทำในสิ่งที่แบรนด์ต้องการ เช่น กดสั่งซื้อ
สินค้า เป็นต้น อย่างไรก็ตาม FOMO เป็นเพียงจิตวิทยา ที่ทำให้ผู้พบเห็นโฆษณารู้สึกไม่อยากพลาดสิ่งๆนั้น รูปแบบของ FOMO จึงไม่ตายตัว แต่ละธุรกิจ
สามารถคิดค้นขึ้นมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับแคมเปญโฆษณาของตนเองได้
ทำการตลาดอย่างไรให้เหมาะสมกับผู้บริโภค FOMO
เน้นการทำคอนเทนต์แบบ Real-Time อยู่ในกระแสประเด็นร้อนในสังคม
Stories และ Live เป็นคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์เพื่อโปรโมตสินค้า และสั่งจองในช่วงเวลานั้น ๆ
การทำแคมเปญเน้นโปรโมชั่นที่พลาดไม่ได้ หรือการโฆษณาแบบสุดพิเศษที่มีเวลาเป็นข้อจำกัด จะทำให้กลุ่มคน Fomo ตัดสินใจซื้อได้ไวขึ้น
3.ระบบการส่งสินค้าไว ไม่ต้องรอนาน
ลอีกหนึ่งปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการขับเคลื่อนธุรกิจออนไลน์คือระบบการส่งสินค้า ยิ่งลูกค้าได้สินเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้นโดยสถิติจากเว็บไซต์ junglescout
ระบุว่า 48% ของนักชอปออนไลน์ยอมจ่ายเงินเพิ่มเพื่อให้สินค้าส่งตรงมาถึงบ้านของตนได้ไวขึ้น และ 55% ของนักชอปออนไลน์ที่ซื้อสินค้าผ่าน Amazon
ก็คำนึงถึงความไวของระบบขนส่งเช่นเดียวกัน ดังนั้น แบรนด์ไหนที่จะต้องส่งสินค้าไปยังผู้บริโภค ควรคำนึงถึงความว่องไวของระบบขนส่ง และการการันตี
คุณภาพเมื่อสินค้าถึงมือผู้รับผ่านเว็บไซต์ ก็จะช่วยให้ลูกค้าไว้วางใจแบรนด์ของมากขึ้น
(ภาพจาก howtogeek)
ตัวอย่างหน้าการชำระสินค้าบนเว็บไซต์ Amazon ที่ระบุวันที่ ๆ สินค้าจะส่งถึงหน้าบ้านผู้รับ พร้อมข้อเสนอที่สามารถเปลี่ยนวันส่งสินค้าได้
ในกรณีที่ไม่มีผู้รับอยู่ที่บ้าน
4.ช่องทางบน Social Media ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
ปัจจจุบันผู้ใช้โซเชียลมีเดียมีแอปพลิเคชันมากกว่า 1 แอป โดยจัดประสงค์ในการใช้แต่ละแอปนั้นก็แตกต่างกันออกไป เช่น การใช้ Instagram เพื่อสื่อสาร
กับเพื่อน และอัปเดตชีวิตส่วนตัว การเล่น TikTok เพื่อเสพสื่อความบันเทิง หรือการดู YouTube เพื่อติดตาม Influencer ที่ให้ความรู้ในแขนงที่ตนสนใจ
ดังนั้น การทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ให้ชัดเจน เพื่อเลือกช่องทางในการสื่อสารได้อย่างตอบโจทย์
5.Data Marketing
การทำธุรกิจออนไลน์นั้นไม่มีทฤษฎี หรือกลยุทธ์ไหนที่ตายตัว เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายในการทำการตลาดไม่เหมือนกัน และ สินค้า และบริการของแต่ละแบรนด์
นั้นมีจุดเด่นเฉพาะในแบบของตัวเอง สิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนการ Online Shopping ให้แบรนด์ก้าวต่อไปได้ในอนาคตคือการรู้จักตัวตนลูกค้า ซึ่งการเข้าถึง
ความต้องการ และเข้าใจปัญหาลูกค้าคือการมีข้อมูลอยู่ในมือ โดยข้อมูลเหล่านี้ แต่ละแบรนด์ย่อมมีความต่างกันออกไป ดังนั้น การทำ Data Marketing สามารถ
เข้าถึงลูกค้าได้ในเชิงลึกว่ามีความต้องการอะไร มีพฤติกรรมแบบไหนในปัจจุบัน ซึ่งจะช่วยให้นักการตลาดสามารถนำเสนอสินค้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้
ปัญหาให้ลูกค้าได้อย่างตอบโจทย์ ทั้งในแง่ของการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย หรือการทำการตลาดแบบ Personalization แบบเฉพาะเจาะจง ดังนั้น การตลาดแบบ
เดิม ๆ อาจไม่ตอบโจทย์กับผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ที่ต้องการความไว และ มีความคาดหวังในตัวแบรนด์มากกว่าอดีต ซึ่งการที่นักการตลาดจะสามารถเข้าใจถึงเหตุผล
ความต้องการ และพฤติกรรมของลูกค้าได้ คุณจะต้องรู้จักใช้ข้อมูล และเครื่องมือที่เหมาะสม
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://stepstraining.co